22 เมษายน 67
พ.ต.ต.สุทศวรรศ อารีย์รัตนะนคร ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รอง ผวจ.กระบี่ ได้นำป้ายประกาศ “ของกลางในคดีพิเศษที่ 56/2566″ มาปิดทับป้ายบริษัท และยึดโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ โดยสนธิกำลังระหว่าง หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 426 กระบี่
คำสั่งการโดย พ.ต.ท.ก้องภพ โพธิ์แสน ผู้บังคับกองร้อย ตชด. 426 กระบี่ และ น.ท.อดิเรก สาทำ รองผู้บังคับการกรมนาวิกโยธิน 2 กองพลนาวิกโยธิน กองทัพเรือ เจ้าหน้าที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน วิศวกรโรงงาน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ และนายเติมศักดิ์ เสี่ยมไหม ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์อ่าวลึก อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่
นางจันทิมา ชตาญาณ ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์คลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ผู้จัดการไฟฟ้าภูมิภาค กระบี่ พร้อมกับนิติกรสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่ นายนิติกรสำนักงานสวัสดิการแรงงานจังหวัดกระบี่ พ.ต.ต.จตุพล บงกชมาศ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ทับสาร รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 56/2566 และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ
ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 24 พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อบุกเข้าควบคุมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นของกลางในคดีพิเศษที่ 215/2565 และควบคุมสั่งหยุดการเดินเครื่องจักรกลสายการผลิตสกัดน้ำมันปาล์มของบริษัทกระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด กำลังเดินเครื่องจักรผลิตน้ำมันปาล์มตามอำนาจของอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
อนุญาตให้บริษัทกระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด ใช้ของกลางโรงงาน มาตั้งแต่ 4 สิงหาคม 2565 โดยมีวิศวกรโรงงาน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเครื่องจักรกล จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ ร่วมตรวจสอบเครื่องจักรกลของกลางทุกชิ้น ที่ประกอบกันเป็นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม
ข้อมูลเบื้องต้น
เราได้รับข้อมูลว่าโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่ดีที่สุด เนื่องจากเครื่องจักรทั้งหมดถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศ การก่อสร้างโรงงานแห่งนี้ และ พ.ต.ต.จตุพล ได้มอบหนังสือที่ ยธ 0817/3049 ถึงกรรมการผู้จัดการของบริษัท กระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด เพื่อให้เตรียมโรงงานให้อยู่ในสภาพครบถ้วนสมบูรณ์ภายในวันที่ 21 เมษายน 67 เพื่อการส่งมอบของกลางในครั้งนี้
ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กล่าวว่า การสนธิกำลังในวันนี้ เพื่อควบคุมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มให้นิ่ง และให้ดำเนินการเกี่ยวกับของกลางในคดีพิเศษเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงยุติธรรม ตามที่ออกโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมตั้งแต่ปี 2547 โดยเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566
หลังจากการสอบสวนคดีพิเศษที่ 215/2565 พบว่ามีการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และอดีตเจ้าหน้าที่ ธกส.ร่วมกันทุจริต ซึ่งทำให้สหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ธกส. และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะเจ้าหนี้ ได้รับความเสียหาย
ดังนั้น คณะพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยัง ป.ป.ช.ตามกรอบกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และหลังจากนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.ประชุมพิจารณาแล้วมีความเห็นส่งกลับมาให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีต่อไป จึงได้แต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในคดีพิเศษที่ 56/2566
หลังจากที่ใช้เวลาสืบสวนตามพยานหลักฐานและอนุญาตให้ใช้ของกลางซึ่งเป็นโรงงานและส่วนร่วม 17 รายการแล้ว คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตัดสินใจให้ รับของกลางจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 215/2565 หลังจากควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และจะประชุมกันอีกครั้งเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปกับของกลางที่เป็นกรรมสิทธิ์เดิมของสมาชิกสหกรณ์ชาวสวนปาล์มกว่า 50,000 ราย
สำหรับโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันที่ถูกดีเอสไอยึดคืน เดิมเป็นของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมัน จังหวัดกระบี่ โรงที่ 2 ตั้งอยู่ในอำเภอคลองท่อม แต่ต่อมาถูกขายให้กับบริษัท กระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด แต่พบว่าสัญญาการซื้อขายไม่เป็นธรรม ดังนั้น เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้รวบรวมพยานหลักฐานจนเกิดการติดป้ายยึดคืนโรงงานในวันนี้
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_8197434