25 เมษายน 2567
นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า ได้เปิดเผยถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขและลดปัญหาการเกิดไฟป่าในพื้นที่ในประเทศไทย ที่มีระดับความรุนแรงสูงขึ้นและล้วนเกิดจากการกระทำของมนุษย์แทบทั้งสิ้น ทั้งการจงใจเผาป่าหรือการประมาทในพื้นที่ป่า รวมถึงความผันแปรของสภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น อันเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมีฤดูแล้งที่ยาวนาน ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ป่าโดยตรง นอกจากจะมีการระดมกำลังคนในการช่วยดับไฟป่าในพื้นที่ ยังมีการใช้เครื่องมือหรือ “เทคโนโลยีช่วยดับไฟ” เข้ามาช่วยในการดับไฟป่า เพื่อให้ปัญหาการลุกลามของไฟป่าลดลงหรือช่วยป้องกันการเกิดไฟป่าในพื้นที่ได้
เทคโนโลยีในการควบคุมและป้องกันไฟป่า
โดยกรมอุทยานฯ มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อช่วยในการควบคุมและป้องกันการเกิดไฟป่า โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าภาคเหนือจะพบจุดเกิดไฟป่า ในพื้นที่เขตจังหวัดตาก ลำปาง และแม่ฮ่องสอนบ่อยครั้ง จึงมีการใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมร่วมกับจิสด้า (Gistda : สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ องค์การมหาชน) เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และสนับสนุนข้อมูล ด้วยการตรวจหาไฟป่าโดยการใช้ดาวเทียมในระบบ VIIRS จากดาวเทียม SOUMI NPP ตรวจหาจุด Hotspots ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ รวมถึงป่าอื่นๆ ทั่วประเทศ ได้อย่างแม่นยำ
การใช้เฮลิคอปเตอร์ในการบินสำรวจ ส่งเจ้าหน้าที่ฯ และลำเลียงน้ำเข้าไปใช้ในการดับไฟและมีการลาดตระเวนตรวจหาไฟป่าทั้งทางพื้นดิน/หอดูไฟ/อากาศยาน รวมถึงการนำเทคโนโลยีโดรนหรืออากาศยานไร้คนขับมาช่วยในการตรวจหาความร้อนและจุดเกิดไฟป่า คือ จะใช้โดรนบินลาดตระเวนและส่งภาพแบบทันที (Real Time) หากจุดไหนพบความร้อน โดรนจะส่งข้อมูลเข้าไปในมือถือหรือคอมพิวเตอร์ของเจ้าหน้าที่ฯ ได้ทันที ซึ่งเทคโนโลยีโดรน ยังมีศักยภาพในการบินตรวจการณ์ได้เป็นเวลานานหลายชั่วโมง และมีรัศมีทำการได้ไกล จะทำให้รู้ได้ว่าพื้นที่ใดกำลังจะเกิดการปะทุ หรือมีความร้อนใต้ดิน ทราบข้อมูลและสามารถสั่งการในการดับไฟป่าได้ทันท่วงที
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลตรวจพื้นที่ป่า
การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อป้องกัน บินตรวจพื้นที่ป่า ตรวจจุดความร้อน เพื่อป้องกันคนไม่ให้ลักลอบเข้ามาทําลายป่าหรือเผาป่า หากมีการใช้โดรนในการบินตรวจสอบพื้นที่ป่าอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถสกัดและรีบเข้าดับไฟป่าได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่ไฟจะลุกลามเป็นวงกว้างขวางขึ้น เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเฝ้าระวังและควบคุมการเกิดไฟป่า
ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า ได้กล่าวถึง ศูนย์สั่งการและติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน (War Room) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการติดตามสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่น PM2.5 ที่ส่งผลตลอดช่วงฤดูไฟป่าในหน้าแล้ง เป็นศูนย์ฯที่ช่วยประสานงาน สั่งการหน่วยงาน กำลังพล และเครื่องมืออุปกรณ์ ในการช่วยแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 17 จังหวัดภาคเหนือทุกระยะ รวมถึงพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://news.ch7.com/detail/722450 https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4544364
