ผวา! หนุ่มโรงงานชาวลาว ถูกเครื่องจักรสานใยฝ้ายหนีบมือ

28 เมษายน 2567

อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ้งได้รับแจ้ง จากศูนย์วิทยุกู้ชีพสมุทรปราการว่า มีคนงานถูกเครื่องจักรหนีบมือไม่สามารถนำออกได้ ภายในโรงงาน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังตรวจสอบ จุดเกิดเหตุ พบโรงงานฝ้ายขนาดใหญ่

จากการตรวจสอบ พบคนงานมือติดที่เครื่องจักรอยู่บริเวณด้านหลังโรงงาน ซึ่งเป็นเครื่องจักรสานใยฝ้าย ใช้สำหรับนำเศษใยฝ้ายมาสานใยให้เป็นใยสังเคราะห์ และนำมาแปรรูปเป็น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ และซึ่งเป็นวันหยุดของผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ได้มาช่วยเพื่อนทำงานโอทีพิเศษ เนื่องจากสินค้าเร่งการผลิตไม่เพียงพอต่อการส่งออก โดยคนงานดังกล่าวได้นำเส้นใยฝ้ายที่พันติดกับเครื่องจักรตัวเฟื่องมอเตอร์ออก

ขณะเดียวกัน เครื่องสานใยนั้น ยังไม่ได้หยุดการทำงานยังคงเดินต่อเนื่องอย่างช้าๆ ซึ่งคนงานดังกล่าว อาจจะไม่รู้จักวิธีการทำงานและนำเศษใยฝ้ายออกมาเพราะเป็นคนงานใหม่ โดยชิ้นส่วนที่พันกับเฟืองนั้น ทำให้เศษฝ้ายมาพันที่ข้อมือและไปติดกับเฟืองมอเตอร์ จนเกิดเหตุและได้รับบาดเจ็บ และไม่สามารถนำมือออกจากตัวเฟืองมอเตอร์ได้ทันที ต้องรอเพื่อนร่วมงานปิดสวิตช์เพื่อหยุดการทำงาน และรอเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาปฐมพยาบาลเบื้องต้นพบว่า ที่ข้อมือด้านขวาเป็นแผลฉกรรจ์ฉีกขาดขนาดใหญ่ เลยจนมาถึงข้อแขนความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ้งได้ เร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำส่งโรงพยาบาล

ทางด้านเจ้าของโรงงาน เล่าว่า

คนงานเป็นผู้ชายชาวลาว โดยคนงานน่าจะดึงเส้นใหญ่ฝ้ายที่เข้าไปพันในเฟือง ซึ่งปกติแล้ว เวลาดึงเส้นใหญ่เฟืองมันจะช้า ซึ่งรอบของมันจะไม่ได้หมุนเร็ว ปกติน่าจะต้องปิดเครื่องให้หยุดทำงานหรือปิดสวิตช์ก่อน แต่คนงานคงประมาท ความจริงแล้วต้องหยุดเครื่องก่อนแล้วเฟืองมันถึงจะหยุด แต่มอเตอร์ก็จะยังทำงานเครื่องก็จะหยุด เราจึงสามารถจะดึงเส้นได้ออกอย่างง่าย แต่คาดว่าคนงานคงไม่ได้ไปปิด คงดึงเลย อาจจะใจร้อน

พอจังหวะที่คนงานดึงมือ อาจจะพันเข้าไป ซึ่งปกติเขาจะ Control กับปุ่มที่ปิดเครื่องแต่มือน่าจะเอื้อมไม่ถึง จึงเป็นสาเหตุให้เข้าไปทั้งมือช่วงนิ้วโป้ง แต่ถ้าหากว่าเอื้อมมือถึง ก็น่าจะไม่มีปัญหา แต่ว่าสวิตช์ควบคุม Control ห่างจากตัวเครื่องประมาณ เลยลำตัวน้องทำให้เอื้อมไม่ถึง ซึ่งขณะเกิดเหตุได้มีพนักงานร่วมกันทำงานจุดดังกล่าวนั้น ประมาณ 4 คน เนื่องจากเป็นวันหยุดแต่มีออเดอร์สั่งเข้ามาเยอะจึงให้คนงานทำโอที และจะให้เลิกงานประมาณ 15.00 น. ซึ่งเป็นการทำงาน OT เฉยๆ ไม่ได้เปิดตามปกติ

จากการสัมภาษณ์เพื่อนร่วมงาน

เพื่อนร่วม เล่าว่า ตนกำลังทำงานอยู่แล้วจู่ๆ ได้ยินเสียง ผู้บาดเจ็บตะโกนดังขึ้นมา ตนจึงได้วิ่งเข้าไปดูและเห็นว่ามือของผู้บาดเจ็บเข้าไปอยู่ในเครื่องจักร ซึ่งโดนบีบอัดจนเละ ตนจึงพยายามเข้าไปช่วยและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิให้เข้ามาช่วยเหลือ

สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/ch3onlinenews/397610 https://news.ch7.com/detail/723082