10 พฤษภาคม 2567
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ บริษัทมาบตาพุด แทงค์เทอร์มินัล จำกัด ว่า ขณะนี้สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ด้วยความร่วมมือจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และบริษัทมาบตาพุด แทงค์เทอร์มินัล จำกัด ได้ควบคุมเพลิงได้อย่างเด็ดขาดและฉีดโฟมหล่อเย็นเพื่อป้องกันจากสภาวะอากาศที่มีอุณหภูมิสูง
ด้านการดูแลประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ได้มีการอพยพประชาชนไปยังที่ทำการชุมชนตากวนอ่าวประดู่ จ.ระยอง รวมทั้งประสานกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะสหเวชศาสตร์ เพื่อจัดส่งทีมแพทย์เข้ามาดูแลสุขภาพ และตรวจรักษาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว
การตรวจสอบสภาพแวดล้อมในพื้นที่
ส่วนในด้านการตรวจวัดคุณภาพน้ำชุมชน โดยรถโมบายของสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) จำนวน 2 จุด ได้แก่ คลองชากหมาก และบริเวณบริษัท ไทยพลาสติกเคมีภัณฑ์ พบว่าคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานปกติ และคุณภาพในบรรยากาศจำนวน 3 จุด ได้แก่ จุดตรวจสถานีอนามัยตากวน จุดตรวจสถานีหนองเสือเกือก และจุดตรวจสถานีเทศบาลเมืองมาบตาพุด อยู่ในเกณฑ์ปกติ
การรับผิดชอบและการแก้ปัญหา
นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย และเสียชีวิต 1 ราย บริษัทยืนยันว่าจะดูแลและเยียวยาอย่างเต็มที่ และนางสาวพิมพ์ภัทราได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ด้วย ซึ่งยังกำชับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยให้กำกับดูแลการประกอบกิจการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และท่าเรืออุตสาหกรรมอย่างเข้มงวดและรัดกุมมากขึ้น อีกทั้งต้องกำกับให้ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 ที่แก้ไขเพิ่มเติมอย่างจริงจัง
จากเหตุการณ์นี้ นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เริ่มวิเคราะห์หาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเร่งจัดทำมาตรการเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ ซึ่งต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานภายนอกที่ให้การรับรองด้านความปลอดภัย (Third Party) พร้อมทั้งชี้แจงแนวทางและมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ทุกนิคมอุตสาหกรรม รวม 66 แห่ง เพิ่มความเข้มงวดของมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ ตามมาตรฐาน “การจัดการความปลอดภัยกระบวนการผลิต” (Process Safety Management : PSM) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบกิจการ และประชาชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.matichon.co.th/region/news_4569187
