16 พฤษภาคม 2567
นายธรรมธรรศ ทองสำโรง นายอำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา (สคพ.11 นม.) สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา (สอจ.นม.) หลังพบปลาและสิ่งมีชีวิตตายในแม่น้ำมูล ช่วงเส้นทางน้ำไหลผ่าน ตำบลท่าอ่าง อำเภอโชคชัย
ต่อมานายบัญชา ขุนสูงเนิน ผู้อำนวยการส่วนตรวจและบังคับใช้กฎหมาย สคพ.11 นม. พร้อมเจ้าหน้าที่ สอจ.นม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผู้นำชุมชนและชาวบ้านได้ชี้จุดพบซากปลาเคล้า ปลาตะเพียน ปลาขาวและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ รวมน้ำหนักประมาณ 3 ตัน ลอยตายอยู่บนผิวน้ำที่มีสีเขียวและกลิ่นเหม็นเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร
จากการตรวจสอบสภาพน้ำ
ตรวจกายภาพสภาพน้ำไหลเอื่อยตามธรรมชาติ ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำภาคสนามพบว่า ค่าความเป็นกรดและด่างเท่ากับ 8.30 ค่าปริมาณสารที่ละลายได้ทั้งหมด (TDS) เท่ากับ 291 มิลลิกรัมต่อลิตร บริเวณเหนือน้ำห่างจากจุดที่พบปลาตายประมาณ 2.5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานแปรสภาพขนไก่ที่รับวัตถุดิบจากโรงงานชำแหละไก่สดขนาดใหญ่ที่สุดใน จังหวัดนครราชสีมา มาย่อยด้วยกรดภายใต้ความดันสูง เพื่อผลิตอาหารขนไก่ป่น
การตรวจสอบบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสียพบว่า มีกลิ่นเหม็นฉุนคล้ายแอมโมเนียและมีน้ำเสียไหลล้นออกมาจากบ่อบำบัดไหลลงสู่แม่น้ำมูล เจ้าหน้าที่จึงเก็บตัวอย่างน้ำบริเวณปลายท่อขณะกำลังระบายออก รวมถึงตัวอย่างน้ำบริเวณริมรั้วด้านนอกโรงงานและในบ่อบำบัดน้ำเสีย รวมทั้งหมด 3 ตัวอย่าง ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำค่าความเป็นกรดและด่าง เท่ากับ 8.09 และค่าปริมาณสารที่ละลายได้ทั้งหมดสูงถึง 4,410 มิลลิกรัมต่อลิตร จึงได้ส่งตัวอย่างน้ำทั้งหมดไปตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ
จากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ทางโรงงานยอมรับว่า เป็นต้นเหตุให้ปลาและสิ่งมีชีวิตตาย เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา (สอจ.นม.) ได้มีคำสั่งให้รื้อถอนท่อระบายน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำมูล ภายใน 24 ชั่วโมง โดยให้ปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียให้มีขนาดและประสิทธิภาพเพียงพอให้เสร็จภายใน 30 วัน หากยังระบายน้ำทิ้งลงสู่แม่น้ำมูลอีก จะพิจารณาสั่งให้หยุดประกอบกิจการบางส่วนเพื่อปรับปรุงแก้ไข ส่วน สคพ.11 นม. ได้เสนอแนะให้พิจารณาชดใช้ค่าเสียหายกรณีปลาตายและฟื้นฟูแม่น้ำมูลที่ได้รับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม โดยให้สำนักงานประมงอำเภอโชคชัย ประเมินค่าเสียหาย รวมถึงชดเชยเยียวยาผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้น้ำ ซึ่งทางผู้บริหารโรงงานยินยอมรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด
ทั้งนี้ เส้นทางน้ำดังกล่าวถือเป็นสาขาต้นน้ำ โดยน้ำดิบถูกระบายมาจากเขื่อนลำมูลบน อำเภอครบุรี ไหลผ่าน อำเภอโชคชัย และบรรจบกับลำตะคองที่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ตลอดเส้นทางกว่า 100 กิโลเมตร การประปาท้องถิ่นหลาย 10 แห่ง รวมทั้งการประปาภูมิภาค ตำบลจอหอ ได้สูบน้ำมาผลิตเป็นน้ำประปาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มีจำนวนผู้ใช้น้ำหลายหมื่นคน
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.matichon.co.th/region/news_4578281
